สนับสนุนโดย    
สนับสนุนโดย    
   
สนับสนุนโดย    
บอกข่าวเล่าความ

เครือข่ายผลิตยาในจีนยังขาดมาตรฐาน

ผู้เขียน: หนังสือพิมพ์ผู้จัดการ
วันที่: 28 ก.พ. 2551

            หลังตกเป็นข่าวฉาว โรงงานผลิตสารประกอบยาแดนมังกรต้องสงสัย เป็นเหตุให้ผู้ป่วยสหรัฐที่บริโภคยา “เฮพาริน” ซึ่งเป็นยาป้องกันโลหิตไม่ให้แข็งตัวเสียชีวิตไป 4 ราย ขณะที่ผู้ป่วยรายอื่นไม่ต่ำกว่า 300 ราย เกิดอาการแพ้ยา ล่าสุดจากการตรวจสอบของผู้สื่อข่าวเอเชียน วอลล์สตรีท เจอร์นัลเผยว่า ระบบเครือข่ายการผลิตวัตถุดิบยาในจีนยังขาดมาตรฐาน ส่วนเจ้าหน้าที่ทั้งจีนและสหรัฐต่างหละหลอมในการตรวจสอบ
       
            ทั้งนี้เฮพารินโดยตัวมันเองเป็นโมเลกุลที่เชื่อมโยงกับน้ำตาล ซึ่งมีในหมู แกะ และสัตว์อื่นๆ มีฤทธิ์ป้องกันการแข็งตัวของเลือด ถูกนำไปใช้อย่างกว้างขวางทางการแพทย์ตั้งแต่ทศวรรษที่ 30 โดยใช้ในการฟอกเลือด การผ่าตัด
เป็นต้น
       
            จากการตรวจสอบของผู้สื่อข่าวถึงต้นตอการผลิตเฮพารินพบว่า การผลิตขั้นแรกทำในโรงงานเล็กๆ ขนาดไม่กี่ห้องแถว ด้วยการสกัดเนื้อเยื่อภายในลำไส้หมู โดยโรงงานเหล่านี้มักทำการผลิตไส้กรอกควบคู่ไปด้วย
       
            คณะกรรมการอาหารและยาสหรัฐ (เอฟดีเอ) มั่นใจว่ากระบวนการผลิตตั้งแต่การสกัดวัตถุดิบจนกลายเป็นยา ต้องผ่านหลายขั้นตอน กระทั่งได้ยาที่บริสุทธิ์ ฉะนั้นในขั้นตอนสุดท้ายจึงไม่น่าเหลือสารปนเปื้อน นอกจากนี้บริษัท
ผู้ผลิตยาคงตรวจสอบการเลือกสรรวัตถุดิบและกระบวนการผลิตมาก่อน แต่วิธีคิดดังกล่าว อาจผิดพลาดในกรณีของบริษัทผู้ผลิตยา ที่มีเครือข่ายรับซื้อช่วงต่อ หรือการซื้อวัตถุดิบที่ผลิตในจีน
       
            นายหยวนฉางคุน เจ้าของโรงงาน หยวนอินเทสทินต์ แอนด์ เคสซิ่ง (Yuan Intesine & Casting Factory) โรงงานสกัดเนื้อเยื่อจากลำไส้หมู ซึ่งมีขนาดเล็กเพียง 4 ห้องแถวกล่าวว่า “เจ้าหน้าที่จีนไม่ค่อยมาตรวจ
สอบกระบวนการผลิต นอกจากนี้ผมก็ไม่ได้เก็บข้อมูลหรอกว่าลำไส้หมูมาจากไหน และก็ไม่รู้ว่าใครเป็นผู้บริโภคคนสุดท้าย ที่แน่ๆคือ ของพวกนี้ เราส่งออกไปต่างประเทศ ผู้บริโภคเป็นชาวต่างชาติ”
       
            หยวนเป็นเจ้าของโรงงานผลิตขั้นต้น ที่มีจำนวนมากมายในจีน หลังการสกัดเนื้อเยื่อจากลำไส้หมูแล้ว ก็จะมีคนกลางรับซื้อไปขายต่อยังโรงงานต่างๆ เป็นทอดๆ ทำให้การสืบหาต้นตอที่มาของวัตถุดิบทำได้ยาก นอกจากนี้ยังมี
ช่องโหว่ทางด้านกฎหมายและการปฏิบัติ คือเจ้าหน้าที่จีนไม่ค่อยตรวจสอบแหล่งผลิตอย่างเข้มงวด ส่วนกฎหมายก็มีช่องโหว่คือ ผู้ผลิตบางรายไปจดทะเบียนว่า เป็นผู้ผลิตสารเคมี ไม่ได้ทำการผลิตสารประกอบยา คณะกรรมการอาหารและยาจีนจึงไม่สามารถเข้าไปตรวจสอบได้ “นี่เป็นผลพวงจากระบบควบคุมที่มุ่งการตรวจสอบสินค้าขั้นสุดท้าย โดยมิได้ใส่ใจเรื่องวัตถุดิบ และกระบวนการผลิตขั้นต้น” เซินเฉิน โฆษกคณะกรรมการอาหารและยาจีนกล่าว
       
ภัยเงียบที่ถูกละเลย
       
            แต่เดิมการสกัดเฮพารินจากอวัยวะภายในสัตว์ ทางผู้ผลิตในสหรัฐและยุโรปใช้ปอดวัวเป็นวัตถุดิบสำคัญในการสกัดสารประกอบตัวยา ทว่าหลังเกิดโรควัวบ้าระบาด ก็มีการยุติการใช้วัวเป็นวัตถุดิบในการสกัดยา เนื่องจาก
เกรงว่าอาจเกิดการแพร่เชื้อได้ การตรวจสอบแหล่งที่มาถึงขั้นต้นว่า วัตถุดิบที่ได้มานั้นมาจากสัตว์ตัวใด และสุขภาพแข็งแรงหรือไม่จึงเป็นสิ่งสำคัญ
       
            ปีที่ผ่านมาจีนประสบภาวะโรคระบาดในหมู ทั้งโรคปากเท้าเปื่อย และหูสีฟ้า ทำให้การตรวจสอบเรื่องแหล่งที่มาของวัตถุดิบชั้นต้น คือหมูที่ถูกเชือดว่า ถูกเชือดจริงหรือไม่ หรือป่วยตายแล้วพ่อค้าหัวใส นำมาขายต่อ
ทว่าบรรดาผู้ผลิตสารเฮพารินชั้นต้นในจีนไม่สนใจหรอกว่า ไส้หมูนั้นมาจากไหน ตราบใดที่ราคาวัตถุดิบถูก และไม่ได้บริโภคด้วยตนเอง
       
            อย่างไรก็ตามบริษัทจีนบางแห่งอ้างว่า บริษัทของตนมีการตรวจสอบแหล่งที่มาของวัตถุดิบ จนถึงขั้นรู้ด้วยว่ามาจากหมูตัวใด และถูกเชือดที่ไหน
       
            หลี่ลี่ ประธานเซินเจิ้น เฮพาลิงก์ ฟาร์มาซูติคอล (Shenzhen Hepalink Pharmaceutical Co.) บริษัทที่ผลิตสารเฮพารินให้กับ เอพีพี ฟาร์มาซูติคอล (APP Pharmaceutical Co.) คู่แข่งของแบ็กซ์ เตอร์
(Baxter International Inc.) บริษัทอเมริกัน ที่มีข่าวฉาวว่านำเข้าสารเฮพารินไม่ได้คุณภาพจากจีนมาทำเป็นตัวยาจนผู้ป่วยเสียชีวิต ยืนยันว่าเซินเจิ้น เฮพาลิงก์ และเอพีพี ร่วมมือกันสามารถตรวจสอบถึงแหล่งที่มาของวัตุดิบชั้นต้นได้ แม้ว่าจะผ่านการซื้อขายมาหลายทอดแล้วก็ตาม
       
            ทั้งนี้จีนเป็นผู้ส่งออกเฮพารินรายใหญ่สุดของโลก ส่งออกเฮพารินรวมมูลค่ากว่า 100 ล้านเหรียญสหรัฐต่อปี เฮพารินดิบพวกนี้จะถูกกระจายส่งออกไปทั่วทุกมุมโลก โดยเฉพาะในสหรัฐ, ออสเตรีย, ฝรั่งเศส, อิตาลี และ
เยอรมนี ซึ่งเป็นแหล่งดำเนินกระบวนการผลิตยาขั้นสุดท้าย ก่อนที่ผลิตภัณฑ์ยาจะถูกส่งออกสู่ตลาด กระจายไปยังผู้ป่วยทั่วโลกอีกที

            เจ้าหน้าที่เอฟดีเอสืบสวนแหล่งที่มาของวัตถุดิบ พบว่าฉางโจว เอสพีแอล (Changzhou SPL) บริษัทจีนที่ส่งสารเฮพารินดิบ ให้กับแบ็กซ์เตอร์นั้น ได้รับซื้อวัตถุดิบเฮพารินตากแห้ง จากโรงงานเล็กๆ ราว 6 - 12 แห่ง ทำให้ยากแก่การตรวจสอบถึงคุณภาพของวัตถุดิบขั้นต้น
       
เยือนแหล่งผลิต
       
            โรงงานเล็กๆ ขนาด 4 ห้องแถว มุงหลังคาด้วยแผ่นกระเบื้องและฟาง เป็นโรงงงานผลิตไส้กรอกที่นายหยวนฉางคุนเป็นเจ้าของ แต่เดิมเมื่อหยวนเริ่มธุรกิจในทศวรรษ 1980 เขาผลิตไส้กรอกเพียงอย่างเดียว ภายหลังจึงเริ่ม
ผลิตเฮพารินดิบ โดยผลิตภายในโรงงานเล็กๆ ซึ่งเป็นที่หลับนอนของเขาด้วย
       
            ทุกวันหยวนจะซื้อไส้หมูจากโรงฆ่าสัตว์ เพื่อนำมาสกัดเฮพาริน “เขาให้สินค้าผม ผมให้เงินเขา เราไม่เก็บบันทึกอะไรหรอก” หยวนกล่าว
       
            หลังจากได้ไส้หมูมาแล้ว กระบวนการผลิตก็เริ่มขึ้นด้วยการคลี่ลำไส้หมูออก ล้างด้วยน้ำ แล้วจึงนำไปรีดเอาเนื้อเยื่อออกมา จากนั้นนำเนื้อเยื่อที่ได้ไปอบร้อนในเตาคอนกรีตแบบบ้านๆ แล้วจึงเทเรซิ่นลงไปเป็นส่วนผสม เพื่อให้เกิด
การจับตัวของเฮพาริน ก่อนที่จะนำไปผ่านกระบวนการต่างๆ กระทั่งนำออกมาตากแห้งที่ลานกลางบ้าน
       
            หยวนกล่าวอีกว่า เดือนหนึ่งเขาผลิตเฮพารินดิบแห้งได้ 6 กิโลกรัม ซึ่งเขานำไปขายต่อให้กับพ่อค้าคนกลางในราคา 6,500 หยวน ต่อกิโลกรัม

            โรงงานบางแห่งได้ลงทุนปรับปรุงมาตรฐานความสะอาด จากการใช้เตาคอนกรีตที่เปียกชื้นได้ง่าย สู่เตาสแตนเลส และใช้อุปกรณ์ที่ทันสมัย อย่างไรก็ตาม ระบบตรวจสอบคุณภาพยังคงมีปัญหา ทั้งโรงงานขั้นต้น และบริษัทที่รับช่วงซื้อเฮพารินดิบต่อ ต่างละเลยการตรวจสอบคุณภาพสินค้า
       
            ในหนึ่งวัน มีการทดสอบคุณภาพของเฮพารินเพียง 1 ครั้งเท่านั้น โดยเป็นการทดสอบเฮพารินกับหยดเลือดของแกะว่า มีผลป้องกันการจับตัวของลิ่มเลือดแกะหรือไม่ นอกจากนี้การติดตามที่มาของวัตถุดิบจนถึงแหล่งขั้นต้นคือ
ฟาร์มปศุสัตว์ ก็แทบเป็นไปไม่ได้ ถึงแม้คุณจะรู้ว่า หมูตัวนี้ถูกเชือดที่ไหน แต่คุณไม่รู้หรอกว่า หมูตัวนี้มาจากฟาร์มไหน เป็นแหล่งที่มีโรคระบาดรึเปล่า เพราะส่วนมากโรงฆ่าสัตว์มักไม่จดบันทึกว่านำหมูมาจากโรงปศุสัตว์ใด


ที่มาของข้อมูล : หนังสือพิมพ์ผู้จัดการ ประจำวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2551


ทำกันง่ายๆหลังบ้านนี่แหละ

เฮพารินดิบแห้ง ผลผลิตจากกระบวนการขั้นต้น

กว่าจะเป็นเฮพารินแต่ละขวด ต้องผ่านขั้นตอนซับซ้อนมากมาย
  เนื้อหาอื่นที่เกี่ยวข้อง:
บอกข่าวเล่าความ - ตะลึงยาปลอมจากจีนกระจายทั่วโลก
บอกข่าวเล่าความ - ยาต้านมาลาเรียปลอมจากจีนระบาดทั่วอินโดจีน
บอกข่าวเล่าความ - โรงงานยาจากจีนก่อเหตุอีกแล้ว
 
  ข้อคิดเห็น
   

ขอเชิญร่วมแสดงข้อคิดเห็น