รายงานผลทางวิทยาศาสตร์จากกรุงปักกิ่ง พบว่า 1 ใน 3 ของแม่น้ำเหลืองในประเทศจีน ซึ่งเป็นแหล่งน้ำที่หล่อเลี้ยงประชาชนหลายล้านคนทางภาคเหลือของประเทศ กำลังเกิดมลพิษอย่างหนักจากของเสียที่ทางโรงงานอุตสาหกรรมปล่อยออกมา ส่งผลให้คุณภาพของน้ำไม่ปลอดภัยในการอุปโภคและบริโภคของประชาชน
คณะกรรมการอนุรักษ์แม่น้ำเหลือง เปิดเผยผลการสำรวจซึ่งทำขึ้นตั้งแต่ปีก่อน (ค.ศ. 2007) ครอบคลุมแม่น้ำเหลืองความยาวกว่า 13,493 กิโลเมตร ที่ไหลจากมณฑลชิงไห่ ทางภาคตะวันตกของประเทศไปยังทะเลป๋อไห่ และแม่น้ำสายต่างๆ พบว่า ร้อยละ 33.8 ของตัวอย่างน้ำจากแม่น้ำเหลืองที่ทำการบันทึกไว้ต่ำกว่าระดับ 5 ตามเกณฑ์มาตราฐานของโครงการสิ่งแวดล้อมแห่งสหประชาชาติ ซึ่งหมายความว่า น้ำเหล่านั้นไม่เหมาะสำหรับการอุปโภค การบริโภค การเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ การใช้ในภาคอุตสาหกรรม และเกษตรกรรม มีตัวอย่างน้ำเพียงร้อยละ 16.1 เท่านั้นที่อยู่ในระดับ 1 หรือ 2 ซึ่งมีความปลอดภัยสำหรับการอุปโภคในครัวเรือน โดยที่ภาคอุตสาหกรรมมีการผลิตและปล่อยของเสียลงแม่น้ำมากถึงร้อยละ 70 ส่วนของเสียอีกร้อยละ 23 มาจากครัวเรือน และอีกร้อยละ 6.4 มาจากแหล่งอื่น อย่างไรก็ดีผลสำรวจไม่ได้ระบุชัดเจนถึงชนิดของสารพิษที่เจือปนในแม่น้ำ
แม่น้ำเหลืองนั้นเป็นแม่น้ำที่มีความยาวเป็นอันดับ 2 ของประเทศจีน แต่ในช่วงเวลาไม่กี่ปีที่ผ่านมาพบว่าคุณภาพน้ำเสื่อมโทรมลงอย่างรวดเร็ว เนื่องจากการปล่อยของเสียและสิ่งปฏิกูลจากโรงงานอุตสาหกรรม นอกจากนี้ระดับน้ำยังลดลงเพราะความเฟื่องฟูของเมืองต่างๆ ทำให้เกิดปัญหาการขาดแคลนน้ำ
อุตสาหกรรมและเศรษฐกิจที่เติบโตอย่างรวดเร็วของจีนในช่วงหลายสิบปีที่ผ่านมาทำให้หลายเมืองในประเทศจีนกลายเป็นเมืองที่มีมลพิษทางน้ำ และทางอากาศมากที่สุดในโลก กระทรวงคุ้มครองสิ่งแวดล้อมของจีน เปิดเผยรายงานเมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมาว่า ปัญหามลพิษในแหล่งน้ำของประเทศยังคงจะรุนแรงต่อไป โดยที่ร้อยละ 20 ของการทดสอบน้ำจากแม่น้ำเกือบ 200 สาย ไม่มีความปลอดภัยสำหรับการอุปโภคและบริโภค
ที่มาของข้อมูล : สำนักข่าวไทย ประจำวันที่ 25 พฤศจิกายน 2551 |