คณะกรรมาธิการด้านตลาดร่วม (Internal Market Committee) สภายุโรป ได้รับรองร่างระเบียบปรับปรุงมาตรฐานความปลอดภัยสินค้าของเด็กเล่นตามที่คณะกรรมาธิการยุโรป (DG Enterprise and Industry) เสนอเมื่อ มกราคม 2008 โดยเพิ่มมาตรฐานความปลอดภัยสำหรับของเด็กเล่นสำหรับเด็กอายุต่ำกว่า 3 ปี ห้ามการใช้สารก่อมะเร็ง เพิ่มความเข้มงวดสำหรับส่วนประกอบที่อาจก่อให้เกิดความเสี่ยงต่อการติดคอ หรือขาดอากาศหายใจ
ประเด็นที่คณะกรรมาธิการด้านตลาดร่วมเพิ่มเติมจากร่างระเบียบเดิมของคณะกรรมาธิการยุโรปมีดังนี้
- กำหนดคำจำกัดความของ ของเด็กเล่น ว่า เป็นผลิตภัณฑ์เพื่อการเล่นสำหรับเด็กอายุต่ำกว่า 14 ปี และกำหนดผลิตภัณฑ์ที่ไม่ถือว่าเป็นของเด็กเล่น ว่า ประกอบด้วย อุปกรณ์ตกแต่งสำหรับการจัดงาน ของสะสมสำหรับเด็กที่มีอายุ 14 ปีหรือมากกว่า ตัวต่อ (puzzle) มากกว่า 500 ชิ้น ประทัดไฟ อุปกรณ์ใหม่ๆ เช่น วีดิโอเกมส์ คอนโซลเกม และหนังสือสำหรับเด็ก
- สนับสนุนข้อเสนอของคณะกรรมาธิการยุโรปที่ให้ผู้ผลิตและผู้นำเข้าเก็บแฟ้มข้อมูลเทคนิคและการรับรอง ความสอดคล้องกับมาตรฐานข้อกำหนดของสินค้าเป็นระยะเวลา 10 ปี นับจากการวางจำหน่ายสินค้า
- ของเด็กเล่นสำหรับเด็กอายุต่ำกว่า 3 ปี ต้องมีมาตรฐานความปลอดภัยที่สูงขึ้น และหากสินค้าใดไม่เหมาะสำหรับเด็กอายุต่ำกว่า 3 ปี ต้องติดคำเตือนให้เห็นชัดเจน
- สมาชิกสภายุโรปไม่ได้สนับสนุนการห้ามใช้สารให้กลิ่นที่อาจทำให้เกิดอาการแพ้ทั้งหมดตามที่คณะกรรมาธิการยุโรปเสนอ แต่ได้ขยายรายการสารดังกล่าวเป็นจำนวนมากโดยกำหนดขีดจำกัดในการใช้สารนั้น สนับสนุนการห้ามใช้สารก่อมะเร็ง สารที่ก่อให้เกิดการกลายพันธุ์ สารที่มีผลต่อระบบสืบพันธุ์ (CMR) รวมทั้งห้ามใช้สารโลหะหนัก อาทิ cadmium, chromium, lead, mercury, arsenic, organic tin
- เพิ่มความเข้มงวดสำหรับส่วนประกอบที่อาจก่อให้เกิดความเสี่ยงต่อการติดคอ หรือการขาดอากาศหายใจ
- กำหนดให้ประเทศสมาชิกอียูทำการตรวจสอบความปลอดภัยของสินค้าให้เข้มงวดมากขึ้นตาม Directive 2001/95/EC เกี่ยวกับ General Product Safety
ทั้งนี้ จะมีการพิจารณาร่างระเบียบนี้ในที่ประชุมสภายุโรปเต็มคณะในเดือน ธันวาคม 2008
ข้อสังเกต
แม้สินค้าของเด็กเล่นที่จำหน่ายในอียู 80% จะนำเข้ามาจากจีน แต่สินค้าของเด็กเล่นที่ไทยส่งออกมาอียูได้ถูกตรวจพบความบกพร่องและแจ้งเตือนในระบบ RAPEX เช่นกัน โดยในช่วง กรกฎาคม - ธันวาคม 2007 และ มกราคม - มิถุนายน 2008 ถูกตรวจพบรวม 6 รายการ
ในการนี้ ผู้ประกอบการไทยพึงศึกษาร่างระเบียบฉบับนี้ เพื่อปรับกระบวนการผลิตให้สอดคล้องกับร่างระเบียบนี้ โดยเฉพาะการห้ามใช้สารอันตราย การป้องกันอันตรายต่อระบบหายใจของเด็ก และการประกาศคำเตือนต่างๆ อย่างถูกต้อง ซึ่งคาดว่าร่างระเบียบนี้จะมีผลบังคับใช้ในช่วงต้นปี 2009
ดูรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับร่างระเบียบดังกล่าว
ที่มาของข้อมูล : เว็บไซต์ไทยยุโรปดอตเน็ต www.thaieurope.net |