โฆษกสำนักงานเลขาธิการสหประชาชาติ (ยูเอ็น) เปิดเผยว่า ผลกระทบจากปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ตัวอย่างเช่น ผลผลิตการเกษตรตกต่ำ และความไม่มั่นคงทางอาหาร จะสร้างความเดือดร้อนอย่างหนักให้แก่ทวีปเอเชีย
นายอีริค ฮอลล์ โฆษกสำนักงานเลขาธิการยูเอ็น กล่าวต่อที่ประชุมธนาคารพัฒนาเอเชีย (เอดีบี) ในกรุงมะนิลา ประเทศฟิลิปปินส์ ว่า ผลกระทบจากปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศจะส่งผลอย่างหนักต่อทวีปเอเชีย โดยจะทำให้ความไม่มั่นคงที่มีอยู่แล้วทวีความรุนแรงขึ้น และอาจทำให้ประเทศในทวีปเอเชียถอยกลับเข้าสู่ความยากจน ซึ่งขณะนี้การเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศเริ่มส่งผลกระทบต่อการพัฒนาในภูมิภาคแล้ว และอาจก่อให้เกิดความเสี่ยงด้านผลผลิตทางการเกษตร ตลอดจนความมั่นคงทางอาหารภายในช่วงคริสต์ทศวรรษหลังปี 2020
ส่วนเมืองตามแนวชายฝั่งทะเล เช่น กรุงเทพมหานคร จาการ์ตา มะนิลา และเซี่ยงไฮ้ อาจจะเผชิญกับปัญหาระดับน้ำทะเลที่เพิ่มสูงขึ้น รวมไปถึงปัญหาน้ำท่วม และคลื่นพายุซัดฝั่ง เนื่องจากสภาพอากาศที่ไม่สามารถจะพยากรณ์ได้
ผลการศึกษาของธนาคารพัฒนาเอเชีย (เอดีบี) ที่เปิดเผยเมื่อเดือนเมษายน พบว่า ปัญหาโลกร้อน อาจทำให้เอเชียตะวันออกเฉียงใต้มีความสูญเสียทางเศรษฐกิจปีละร้อยละ 6.7 ของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศรวมกันภายในปี 2643
ทั้งนี้ บรรดาประเทศพัฒนาแล้วกำลังถูกกดดันอย่างหนักให้ยอมกำหนดเป้าหมายลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกลงในปริมาณมากภายในปี 2563 เพื่อบรรลุข้อตกลงด้านสภาพอากาศในปลายปีนี้ ซึ่งจะมาแทนที่พิธีสารเกียวโตที่จะหมดอายุลงในเร็วๆ นี้
ที่มาของข้อมูล : สำนักข่าวไทย ประจำวันที่ 17 มิถุนายน 2552 |