สนับสนุนโดย    
สนับสนุนโดย    
   
สนับสนุนโดย    
บอกข่าวเล่าความ

Beauty Toxic ภัยเงียบจากเครื่องสำอาง

ผู้เขียน: ASTV ผู้จัดการออนไลน์
วันที่: 23 ก.ค. 2552

            อยากสวย... นี่คือปรารถนาสุดยอดในใจของสาวๆ เกือบทั้งโลก ยุคนี้สาวๆ ใจกล้าบางคนพึ่งพามีดคมกริบของหมอศัลยแพทย์ ในขณะที่แทบทุกคนอาศัยเครื่องสำอาง ในการตกแต่งใบหน้ารวมถึงผิวพรรณด้วยหลักเสริมจุดเด่น ลบจุดด้อย ทำให้ตลาดคอสเมติกของโลกขยายขึ้นอย่างรวดเร็วเพื่อสนอง Supply ให้ทันต่อ Demand ซึ่งนั่นส่งผลให้มีการผลิตเครื่องสำอางออกมานับหมื่นนับแสนชนิด จากทั้งยี่ห้อระดับไฮเอนด์ ไปจนถึงระดับแบกะดิน

            ภญ. พรพรรณ สุนทรธรรม เภสัชกรชำนาญการพิเศษ คณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ให้ข้อมูลไว้ในเอกสารการบรรยาย เครื่องสำอางอันตราย ตื่นเถิดผู้บริโภคทั้งหลาย ว่า อาการแพ้สารเคมีในเครื่องสำอางมีหลายระดับ ตั้งแต่อาการผิดปกติเล็กน้อย เช่น ผื่นคันที่ผิวหนัง ไปจนถึงขั้นอักเสบ และในกรณีเครื่องสำอางผิดกฎหมายที่ผสมสารมีพิษลงไปอาจส่งผลต่ออวัยวะภายในถึงขึ้นเสียชีวิตได้เลยทีเดียว
       
            แม้แต่เครื่องสำอางที่มีการรับรองคุณภาพ หากไม่ถูกกับผิวก็มีโอกาสแพ้ได้เหมือนกัน ยิ่งในกรณีเครื่องสำอางเถื่อน ไม่ได้มาตรฐาน และมีการผสมสารต้องห้ามผิดกฎหมายลงไปนี่ยิ่งไม่ต้องพูดถึง อันตรายมากจนชนิดคิดไม่ถึง
      
น้ำยาทำสีผม - น้ำยาดัดผม
       
            เภสัชกรชำนาญการพิเศษรายนี้ให้ข้อมูลเกี่ยวกับเครื่องสำอางชนิดต่างๆ ที่ใช้สำหรับแต่ละส่วนของร่างกาย ที่มีโอกาสทำปฏิกิริยาต่อร่างกายทำให้แพ้ โดยเริ่มตั้งแต่ผลิตภัณฑ์ที่ใช้กับส่วนบนสุดของร่างกายอย่างผม
       
            ผลิตภัณฑ์ย้อมผมชนิดสีติดทนหรือย้อมถาวรและผลิตภัณฑ์ดัดผม ประกอบด้วยสารเคมีที่แรง และ มีความเป็นด่าง หากใช้ในขณะที่หนังศีรษะมีรอยถลอก เป็นแผล หรือโรคผิวหนัง จะเกิดการแพ้ จนถึงขั้นรุนแรงได้ เป็นเครื่องสำอางที่ต้องระวังมาก เพราะมีโอกาสแพ้สูง แต่ปัญหาก็คือ คนส่วนใหญ่ไม่ค่อยทำสีผมเอง มักจะไปใช้บริการร้านเสริมสวย ซึ่งลูกค้าจะไม่ค่อยมีโอกาสได้อ่านฉลากผลิตภัณฑ์ หรือแม้ช่างเสริมสวยก็อาจมองข้ามคำเตือนเหล่านี้ เนื่องจากทั้งผลิตภัณฑ์ย้อมผมชนิดสีติดทนและผลิตภัณฑ์ดัดผมมีความเป็นด่าง เมื่อใช้แล้วหนังศีรษะอาจมีความอ่อนแอช่วงขณะหนึ่ง ดังนั้นหากจะใช้ 2 ผลิตภัณฑ์นี้ ต้องทิ้งระยะเวลาให้ห่างกันประมาณ 15 วัน เพื่อให้หนังศีรษะแข็งแรงพอที่จะรับสภาพได้ มิฉะนั้น อาจเกิดการแพ้ที่รุนแรงได้

ครีมหน้าขาว - หน้าเด้ง
       
            ถัดมาที่บริเวณใบหน้ากันบ้าง ภญ.พรพรรณ ระบุว่า เป็นสิ่งที่ห่วงที่สุด และทางอย.เองก็พยายามรณรงค์ให้ข้อมูลมาตลอด เพราะถ้าพูดถึงใบหน้าแล้ว คุณสาวๆ ทั้งหลายร้อยทั้งร้อยย่อมอยากจะมีใบหน้าที่ขาวนวลชวนมอง เครื่องสำอางที่ผู้หญิงกลุ่มนี้เลือกใช้ก็คือกลุ่มที่เรียกว่าครีมหน้าเด้ง
       
            มีครีมที่ผู้ผลิตโฆษณาว่าทาแล้วจะลดสิวฝ้าหน้าใสเด้งอยู่เป็นจำนวนมากในท้องตลาด ที่มีส่วนผสมของสารที่ผิดกฎหมาย ซึ่งทางอย.ตรวจพบว่ามีการลักลอบใช้สาร 3 ชนิด ที่พิสูจน์ชัดแล้วว่าอันตราย คือ สารปรอท อันตรายที่เกิดคือ ทำให้เกิดการแพ้ ผื่นแดง ผิวหน้าดำ ผิวบางลง เกิดพิษสะสมของปรอท ที่สำคัญที่น่ากลัวมากคือ ทำให้ทางเดินปัสสาวะและไตอักเสบ
       
            สำหรับสารพิษตัวที่ 2 คือ ไฮโดรควิโนนทำให้เกิดการแพ้ระคายเคือง เกิดจุดด่างขาวที่หน้า ที่สำคัญคือ ทำให้ผิวหน้าดำ เป็นฝ้าถาวรรักษาไม่หาย ส่วนตัวสุดท้าย คือ กรดวิตามิน มีชื่อพ้องคือ เรทติโนอิกแอสิด และ เตรทติโน อันตรายที่เกิด คือ ใช้แล้วหน้าแดง ระคายเคือง แสบร้อนรุนแรง เกิดการอักเสบ ผิวหน้าลอกรุนแรง แต่ภัยเงียบที่น่ากลัวที่สุดคือครีมเหล่านี้ อาจเป็นอันตรายต่อทารกในครรภ์ ทำให้ทารกในครรภ์พิการได้

ลิปสติก (Tint)
       
            ภญ. พรพรรณ ให้ภาพเครื่องสำอางยอดฮิต อย่าง ลิปสติก” ว่า หน้าที่หลักของลิปสติกคือทาปากให้เป็นสีต่างๆ ส่วนประกอบสำคัญของลิปสติกก็คือสี ซึ่งแม้ถูกจะเป็นเครื่องสำอางที่ได้มาตรฐานและมีการรับรองก็ยังพบว่ามีคนจำนวนไม่น้อยแพ้สีรวมไปถึงสารประกอบในลิปสติก ทำให้ไม่สามารถจะทาลิปสติกได้
       
            ลิปสติกเป็นเครื่องสำอางที่ใช้กับริมฝีปาก มีโอกาสกาลเข้าปากหรือกลืนกินเข้าไปได้ง่าย ดังนั้นการเลือกซื้อต้องระมัดระวัง และในส่วนของลิปสติกเถื่อนนั้น ข้อมูลจากการเฝ้าระวังและตรวจวิเคราะห์ลิปสติกที่ไม่มีฉลากภาษาไทยของอย. พบสีหลายชนิดที่กระทรวงสาธารณสุขห้ามใช้ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2534 เนื่องจากทำให้เกิดมะเร็งในสัตว์ทดลอง
       
            เภสัชกรหญิงแห่งอย. รายนี้บอกเล่าถึงเครื่องสำอางที่ใช้กับปากอีกตัวอย่างเจลทาปาก หรือ Tint ที่เคยเป็นข่าวว่าวัยรุ่นนิยมใช้ทาริมฝีปากด้านใน ว่าใช้หลักการเดียวกัน คือ ถ้าดูแล้วว่าผิดกฎหมายในเบื้องต้นเรื่องฉลาก เมื่อพบแล้วห้ามซื้อมาใช้ เพราะการทาริมฝีปากด้านใน มีโอกาสกลืนกินมาก หากเป็นผลิตภัณฑ์ที่ผิดกฎหมาย นอกจากเรื่องสีที่ไม่อนุญาต อาจมีโลหะหนักเช่น ตะกั่ว จะยิ่งอันตรายมากขึ้น

ครีมโลชั่นทาผิว และบำรุงผิว
       
            เป็นอีกกลุ่มหนึ่งที่มีรายงานการแพ้ค่อนข้างสูง ภญ.พรพรรณอธิบายถึงสาเหตุที่กลุ่มนี้ได้รับรายงานมาก เนื่องจากเป็นกลุ่มเครื่องสำอางกลุ่มใหญ่หลากหลายทั้งประเภท ทั้งใช้กับผิว ใบหน้า บอดี้ หรือใช้เฉพาะที่อย่างตา ฝ่ามือ ฝ่าเท้า ชนิดที่มีทั้งแบบกลางวัน กลางคืน มีแดด ไม่มีแดด และยี่ห้อที่มีสารพัด ซึ่งจากรายงานที่ทางอย. ได้รับ พบว่าอาการแพ้ที่พบมีหลากหลาย ตั้งแต่ มีผื่นคันเล็กน้อย จนถึงขั้นผิวอักเสบ สาเหตุการแพ้มีหลากหลาย ทั้ง เป็นการแพ้เฉพาะบุคคล เช่น แพ้น้ำหอม หรือ สารเคมีที่เป็นส่วนประกอบ

ที่มาของข้อมูล : ASTV ผู้จัดการออนไลน์ ประจำวันที่ 23 กรกฎาคม 2552

  สารเคมีที่เกี่ยวข้อง:
Ammonia
Glycolic acid
Hydroquinone
Lead
Mercury
  เนื้อหาอื่นที่เกี่ยวข้อง:
บอกข่าวเล่าความ - แพทย์อังกฤษเตือนภัยครีมทาผิวขาว
บอกข่าวเล่าความ - เตือนหญิงมีครรภ์ใช้ยารักษาสิว ส่งผลต่อเด็กในท้อง
บอกข่าวเล่าความ - อันตราย... จากยาย้อมผม
บอกข่าวเล่าความ - กลูตาไธโอน... ความสวยที่มาพร้อมกับอันตราย
บอกข่าวเล่าความ - อย. เปิดเผยกรณีเจลทาปากทินท์ (Tint)
 
  ข้อคิดเห็น
   
ข้อคิดเห็นที่ 1:1

ตอนนี้พ่อเเพ้สารเคมี เปนบอดี้โลชั่น  ไม่ได้ดูวันหมดอายุ เลยใช้
หมดตั้งเเต่ 2009  มาใช้2010 ตอนเเรกเปนไม่เท่าไร พอ ไปเจอเเดด เจอลม
เเล้ววันนั้นไป พิจิตร ไปกระถิน เจอ นําบาดาล อีก กลับมา ประมาณ 2 อาทิตย์ เริ่มเเดงขึ้น เเล้ว พอไปพบเเพทย์ เเพทย์ก็ให้ยามาทา เเล้วนํามันมะกอก เเล้วเเพทย์ก้ฉีดยาห้มันผุดออกมา มันก่เริ่มเปนหนักกว่าเก่า เวลาผ่านไป 3-4 อาทิตย์ เเพทย์ก้ให้นอน เเอตมิตร์ที่ สถาบันผิวหนัง นอน ประมาณ 5 วัน เเพทย์ให้กลับบ้านได้  เเต่ผิวของเราตึงหมดเลย เเล้วมือกําเเทบไม่ได้อ่ะผิวบาง ลอกหนังออกมาเป๊นผ่นๆ ตอนนี้นอน รักษาตัวอยู่ที่บ้าน   ทุกคนต้องระวังตัวด้วยน่ะคับ เรื่องสารเคมี เล้วดูวันหมดอายุ ด้วยน่ะคับ   ขอบคุณมาก คับ

โดย:  benz  [26 พ.ย. 2553 13:04]
 
   

ขอเชิญร่วมแสดงข้อคิดเห็น