รายงานจากกรุงวอชิงตัน เปิดเผยว่า นักวิจัยในสหรัฐอเมริกาได้กล่าวเตือนผู้ที่ดื่มน้ำอัดลมผสมน้ำตาลสัปดาห์ละ 2 ครั้งขึ้นไป เสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งตับอ่อนเพิ่มมากขึ้น ซึ่งเป็นมะเร็งที่พบได้น้อยมาก แต่มีความรุนแรงถึงขั้นเสียชีวิตได้
คณะนักวิจัยมหาวิทยาลัยมินเนโซตา ติดตามศึกษาชายและหญิง 60,524 คน ในโครงการศึกษาสุขภาพชาวสิงคโปร์ เชื้อสายจีน เป็นเวลา 14 ปี พบว่า มี 140 คน เป็นมะเร็งตับอ่อน และพบว่าคนที่ดื่มน้ำอัดลมผสมน้ำตาลสัปดาห์ละ 2 แก้วขึ้นไป โอกาสเป็นมะเร็งตับอ่อนเพิ่มขึ้นร้อยละ 87 สันนิษฐานว่า น้ำตาลปริมาณสูงในน้ำอัดลม อาจทำให้ระดับอินซูลินในร่างกายสูงขึ้น ส่งผลให้เซลล์มะเร็งตับอ่อนลุกลาม เพราะตับอ่อนเป็นแหล่งผลิตอินซูลินที่ช่วยเผาผลาญน้ำตาลในร่างกาย อย่างไรก็ดี นักวิจัยได้ออกตัวว่า ผู้ชอบดื่มน้ำอัดลมผสมน้ำตาลมักมีพฤติกรรมที่ไม่เป็นประโยชน์ต่อสุขภาพอยู่แล้ว
ทางด้านศูนย์มะเร็งเยล ที่มหาวิทยาลัยเยล กล่าวติงว่า ผลการศึกษานี้อ้างอิงจากผู้ป่วยจำนวนน้อย และยังไม่แน่ชัดว่าน้ำอัดลมผสมน้ำตาลเกี่ยวข้องกับการเป็นมะเร็งตับอ่อนหรือไม่ นอกจากนี้ ยังมีพฤติกรรมอื่นที่ไม่เป็นประโยชน์ต่อสุขภาพ เช่น การสูบบุหรี่ การรับประทานเนื้อแดง เป็นปัจจัยที่ไม่ได้ควบคุมอยู่ในการศึกษานี้
มะเร็งตับอ่อนเป็นหนึ่งในมะเร็งที่ร้ายแรง แต่ละปีมีผู้ป่วยทั่วโลก 230,000 คน เฉพาะในสหรัฐอเมริกาประเทศเดียว พบผู้ป่วยปีละ 37,680 คน เสียชีวิต 34,290 คน สมาคมมะเร็งอเมริกัน เผยว่า อัตรารอดชีวิตภายใน 5 ปี มีเพียงร้อยละ 5 เท่านั้น
ที่มาของข้อมูล : สำนักข่าวไทย ประจำวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2553 |